สวัสดีค่ะ นี่คือบล็อกแรกของเรา และหวังว่าจะได้เขียนบล็อกสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่อๆไปนะคะ วันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสได้เดินทางไปยังจังหวัดระยอง ทางภาคตะวันออกของประเทศไทย เป็นเมืองที่สำคัญอีกเมืองนึงในด้านเศรษฐกิจ และด้านการท่องเที่ยว เป็นที่รู้กันดีนะคะว่า ระยองนั้นมีทะเลด้วย ทำให้ระยองมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางธรรมชาติ ทางทะเล หรือหมู่เกาะต่างๆ ที่คุ้นๆ และได้ยินผ่านอยู่หูบ่อยๆก็จะมี เขาแหลมหญ้า เกาะเสม็ด หาดแม่รำพึง เขาชะอางครอมคลอง และหมู่เกาะมัน แต่วันนี้เราไม่ได้พาไปเกาะ หรือสถานที่ที่กล่าวมาข้างต้นเลยค่ะ แต่เราจะพาไปที่แหกแหวกแนว เสียวตับ ไต ไส้ พุง ที่เกิดมาครั้งนึงต้องลองสักครั้ง ที่นั้นคือก็ SkyDive Thailand ที่ตั้งอยู่ที่ตำบล เนินฆ้อ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เราได้จองสิทธิพิเศษจากเพจ ท่ อ ง เ ที่ ย ว เ รื้ อ รั ง โดยจ่ายไป 500บาท เพื่อรับส่วนลด ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม ใช้สิทธิ์ได้ถึง 31 ธันวาคม 63 และที่นี้เปิดให้บริการแค่วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.30 – 18.00 นะคะ
เมื่อเข้าไปถึงให้แจ้งชื่อการจองที่หน้าเคาน์เตอร์ และเลือกแพกเก็จว่าจะกระโดดแพ็กเก็จไหน เราเลือก Gold Package ราคาเต็ม 17,200 แต่เราใช้ส่วนลดเลยได้ราคา 12,600 บาท ทั้งหมดมี3แพ็กเก็จตามนี้เลยค่ะ
หลังจากเลือกแพ็กเก็จแล้ว เขาจะให้เราเซ็นยินยอมที่จะกระโดด หลังจากนั้นก็รอเรียกรอบของเราค่ะ เราได้รอบที่3 ระหว่างรอนักโดดร่มจะให้เราไปเตรียมตัวในห้องปฏิบัติการ และจะมีการสวมสายเข็มขัดนิรภัยในการกระโดดให้
เสร็จแล้วนักโดดร่มจะเทรนเราว่าควรทำยังไงบ้างระหว่างโดด และก่อนลงถึงพื้น โดยจะมีสามขั้นตอนตามนี้เลยค่า
หลังจากเทรนอะไรเรียบร้อยแล้วก็รอเวลาโดดอย่างเดียวเลยค่า ตื่นเต้นมากๆ ช่วง10นาทีก่อนขึ้นเครื่องคือ ตัวสั่นแรงมาก ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว แต่ก็ถอยไม่ได้แล้ว จากนั้นก็รอที่ Gate เตรียมตัวขึ้นบินเลยค่า แต่ก่อนขึ้นเครื่องก็ทีมงานจะเข้ามาสัมภาษณ์เราก่อนขึ้นซึ่งจะอยู่ในแพ็กเก็จที่เราเลือกค่ะ
และนี้คือณอนที่จะโดดคู่กับเราค่ะ นักโดดร่มที่นี้นะคะเป็นนักโดดมือชีพที่มีใบอนุญาตของ USPA C จากสมาคมกีฬากระโดดร่มแห่งสหรัฐอเมริกา
ตอนที่เครื่องบินขึ้นแล้ว เราจะเห็นวิวสวยๆของจังหวัดระยองได้หมดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนต่างๆ ภูเขา ทะเล และที่สำคัญเราสามารถมองเห็นเกาะเสม็ดจากบนเครื่องได้ด้วยค่ะ
ถึงแม้จะกลัวแค่ไหน แต่ก็ห้ามกลัวต่อหน้ากล้องนะคะ เดี๋ยวรูปจะไม่สวย ฮ่าๆ นิมิฮาร์ตให้กำลังใจตัวเองหน่อยค่า และก่อนจะถึงจุดโดดร่ม จะมีการเช็คอุปกรณ์ว่าแน่นไหม มีอะไรหลุดหรือเปล่า และมีการสัมภาษณ์ก่อนโดดด้วยค่ะ
โอ้ลืมบอกไปว่า เรากระโดดจากความสูง 13,000 ฟุต หรือ 4,000 เมตรจากพื้นดินนะคะ เมื่อถึงความสูงที่ต้องโดดแล้วก็จะเปิดประตูเพื่อกระโดดค่ะ ข้างบนเย็นมากเพราะละอองไอน้ำจากเมฆ เราได้โดดคู่สามค่ะ ก่อนกระโดดคือขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศไทยช่วยคุ้มครองลูกช้างด้วย ให้ถึงพื้นอย่างปลอดภัยด้วยเทิด พอขึ้นตาเราก็ทำตามขั้นตอนตามที่ได้เทรนมาเลยค่ะ
โดดแล้วค่า กรี้ดสุดเสียงมากกกกกกก คุณพี่ณอนยิ้มให้กล้องอย่างโปรเฟสชั่นแนลมาก
ศักดิ์สิทธิ์ช่วยลูกช้างด้วยยยยยย
Advertisement
ช่วงก่อนปล่อยร่มตัวเราจะดิ่งลงพื้นเร็วมากๆ น่ากลัวมากๆ แต่ก็สนุก ความรู้สึกมันปนกันไปหมดเลยค่ะ แต่บอกก่อนนะคะตอนเราโดด เราไม่หลับตาเลยถึงจะกลัวมากก็ตาม เพราะตอนนั้นคิดว่า ถ้าตายก็ขอให้ได้เห็นวิวสวยๆก่อนตายละกัน อีกอย่างคือจ่ายแพงค่ะ ถ้าหลับตาเสียดายเงินแย่ ฮ่าๆๆ
หลังจากโดดด้วยความเร็วสักพัก ก็จะปล่อยรมใหญ่ค่ะ จากนี้คือชิวมาก ชมวิวรอบๆ ลมเย็นๆ แต่ก็เสียวมากๆ ไม่กล้ามองพื้นเลยค่า มองวิวแทนกลัวหัวใจวาย ฮ่าๆ
ใช้เวลาทั้งหมดตั้งแต่ขึ้นเครื่องบิน จนลงมาถึงพื้นใช้เวลาไม่ครึ่งครึ่งชั่วโมงค่ะ ตอนบินใช้เวลาแค่ 15 นาที ตอนโดดให้เวลาเพียงแค่ 7 นาที
ก่อนแลนดิ้งถึงพื้นก็ยกขาขึ้นเหมือนตอนที่เทรนมาเลยกัน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เนื่องจากเราไม่มีประสบกาณร์มาก่อนอาจจะทำให้ได้รับบาดเจ็บได้
ถึงพื้นดินอย่างปลอดภัย ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่คุ้มครอง และคุณณอนมากๆค่ะ
หลังโดดเสร็จเราจะได้ใบ certificate ด้วยนะคะ เพื่อเป็นหลักฐานในความกล้าหาญของเรา ฮ่าๆ
ความรู้สึกหลังกระโดดร่มนะคะ ด้วยความที่เราชอบกีฬาที่ extreme และลองมาหลายอย่าง บอกได้คำเดียวว่า บั้นจี้จัมพ์น่ากลัวกว่ากระโดดร่มค่ะ ฮ่าๆ เพราะบั้นจี้จัมพ์โดดทีหัวคือจุ่มน้ำแล้ว แต่กระโดดร่มจะน่ากลัวแค่ช่วงแรกๆ แต่หลังจากปล่อยร่มออกแล้วก็จะชิวมากเลยค่ะ ใครที่เป็นสายลุย ชอบอะไรที่ท้าทาย กระโดดร่มถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมากๆค่ะ เหมือนเราได้ปลดล็อคตัวเอง ท้าทายกับความกลัว มาลองสักครั้งนึงในชีวิตก็ไม่เสียหายนะคะ
Little Barbie
วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.02 น.