ชาร์จพลังใจ ด้วยไฟตะเกียง | River Kwai Jungle Rafts

เคยมั้ย ?!?  

เวลารู้สึกเหนื่อยๆ เบื่อๆ ร่างกายล้าๆ อาการคล้ายแบตเตอรี่จะอ่อน ไฟใกล้หมด

อยากจะวาร์ปหายไปหา . . . ที่ชาร์จแบต

ขอแบบไกลๆ สงบๆ ไม่ต้องสุงสิง ไม่ต้องโซเชี่ยลกับใคร 

อยากอยู่เงียบๆ มีธรรมชาติไว้คอยบำบัด พอชาร์จแบตเต็ม ก็ค่อยกลับมาสู้กันใหม่

แมวน้ำ Seally.Go.Round เพิ่งกลับมาจาก แท่นชาร์จพลัง 

ที่เป็น แพพักลอยน้ำอยู่กลางป่า บรรยากาศเงียบสงบ 

แต่น่าแปลก คือ แท่นชาร์จแห่งนี้กลับไม่มีพลังงานไฟฟ้า 

มีเพียงตะเกียงเจ้าพายุเป็นแสงนำทางให้เรายามค่ำคืน 

พร้อมพลังงานจากธรรมชาติ ที่ช่วยชาร์จพลังใจ เติมพลังไฟให้กับเราครั้งนี้ที่ . . .  ^^

• RIVER KWAI JUNGLE RAFTS •

K A N C H A N A B U R I

แพพักที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าเขา และสายน้ำของแม่น้ำแควน้อย​ กาญจนบุรี มายาวนานหลายทศวรรษ​ 

ภาพแพพักริมน้ำแควที่เราเคยเห็นในหนังสือ ​อสท ตอนเด็กๆ​ และชื่อ Jungle ​Rafts ที่เราคุ้นหูมานาน​ ​ ตอนนี้จะเปลี่ยนไปจากที่เราเคยเห็นในรูปรึเปล่า​ 

วันนี้เราจะพาตัวเข้าไปชาร์จแบตเพิ่มพลังกาย​ จ่ายกระแสไฟให้พลังใจ​ จากพลังงานธรรมชาติ​กันที่นี่

>>> ดูคลิปวิดีโอนี้ เรียกน้ำย่อยกันก่อน 

. . . แล้วจะรู้ที่แท่นชาร์จพลังกลางป่าแห่งนี้ ให้อะไรเราบ้าง

SEALLY.GO.ROUND

---

การเดินทางไปที่​ Jungle ​Rafts ให้ตั้ง Google Map ไปที่ >>>​ "ท่าเรือพุตะเคียน​" 

(ท่าเรือร่วมที่จะนำพาคุณไปยัง 3 ที่พัก​ ได้แก่​ Riverkwai Resotel / ​ The FloatHouse ​ / Jungle ​Rafts​ )

**** ห้ามตั้ง GPS ไปที่ Jungle Rafts เด็ดขาด!!! เพราะไม่งั้นGPS จะนำทางคุณเข้าไปผิดทาง​ ซึ่งไกลกว่าท่าเรือพุตะเคียนถึง​ 7​ กม. แล้วต้อง​ย้อนกลับอีก ​7 ​กม.เลยทีเดียว เราไปมาแล้วถึงรู้ไง ^^' เตือนแล้วนะจ๊ะ  *****

*** ตั้ง GPS ไปที่ >>> " ท่าเรือ พุตะเคียน" เท่านั้น!!!! *** 

จอดรถที่ท่าเรือ​ แล้วแจ้งชื่อ​และบอกว่าพักที่ ​River Kwai Jungle ​Rafts ทางสตาฟที่ท่าเรือก็จะเตรียมเรือหางยาว นำพาเราไปยังที่พัก

ได้รับพลังงานธรรมชาติ ​ตั้งแต่ออกสตาร์ทจากท่าเรือเลย​ ดีจัง^^ ​ เหมือนได้เรือชมวิวไปด้วย

Advertisement

ใช้เวลานั่งเรือประมาณ​สิบกว่านาที​ก็ถึงที่พักของเรา​ มีพนักงานชาวมอญมายืนคอยต้อนรับ

WELCOME

to 

River Kwai Jungle Rafts

ไม่น่าเชื่อว่า​ หลายสิบปีที่เราเคยได้เห็นรูปของ Jungle Rafts ในนิตยสารท่องเที่ยว ภาพฝรั่งนั่งทานอาหารแล้วฉากเป็นแพพัก​ ยังจำได้ไม่ลืม​

วันนี้ได้มาเห็นสถานที่จริงกับตา ที่นี่ก็ยังเหมือนเดิมแบบในรูปที่เคยเห็น​ไม่เปลี่ยนเลย

ตอนแรก​คิดว่า Jungle Rafts เปิดมานานแล้ว คงมีร่องรอยความเก่าให้เห็นบ้าง​ แต่พอมาถึงทุกอย่างอยู่ในสภาพสมบูรณ์​เหมือนใหม่​ แสดงว่าที่นี่ได้รับการดูแล​อย่างดีมากๆ ไม่แปลกที่จะได้รับรางวัลการันตีจากหลายสถาบันในระดับนานาชาติ 

ฝรั่งต้องหลงรักที่นี่มากแน่ๆ

จุดเด่นของที่นี่คือ ธรรมชาติ​ 

อยู่อย่างสงบ ​เหมาะกับการพาร่างมาชาร์จพลังจากธรรมชาติแบบเรียลๆ

ไม่มี พลังงานไฟฟ้า​ 

ไม่มี อินเตอร์เน็ท WIFI 

ไม่มี สัญญาณโทรศัพท์​ 

ใครอยากมา Digital Detox . . . คุณจะได้ดีท็อกซ์จากโซเชี่ยลไลฟ์อย่างแท้จริง

Advertisement

icon อีกอย่าง ของ ที่นี่ คือ ตะเกียงเจ้าพายุ​ ที่คอยให้แสงสว่างยามค่ำคืน​ 

กลิ่นน้ำมันก๊าดจากตะเกียง ทำให้นึกถึงบ้านในสมัยก่อน เหมือนได้กลับไปใช้ชีวิต Back to Basic สมัยที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้กัน

ห้องพักของเราเรียบง่าย​ มีที่นอนและมุ้ง​ พร้อมพัดลมแบบอัตโนมือ  ให้ความเย็นด้วยพลังงานมือของตัวท่านเอง พอค่ำไปแล้วแสงหมด ในห้องมืดสนิท มีเพียงแสงไฟตะเกียงดวงเล็กๆให้ความสว่าง

ตอนแรกๆอาจจะยังไม่ชินกับการต้องอยู่แบบมืดๆ เดินคลำทาง หาของไม่เจอบ้าง เพราะเราอยู่กับการใช้ไฟฟ้ามาตลอดชีวิต แต่พอปรับตัวได้ก็ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไร 

แต่คืนนี้คงขอจองเปลหลังบ้าน​ นอนฟังเสียงน้ำไหล​ ลมเย็นๆตรงนี้แล้วกัน ^^

หน้าบ้านของเรามีชานยื่นออกมานั่งเล่น จะโดดน้ำเล่นจากหน้าบ้านเลยก็ได้

หรือ จะนอนไกวเปล ดูบ้านอื่นลอยคอผ่านไปก็เพลินดี

แต่เราสายกิจกรรมจะให้นั่งเล่น นอนอ่านหนังสือบนเปลญวนเฉยๆเราทำไม่ได้จริงๆ 

เลยขอออกไปสำรวจหมู่บ้านมอญที่ขึ้นไปบนฝั่งหลัง Jungle Rafts นี่ก่อน  แล้วค่อยมาลุยกิจกรรมทางน้ำกันต่อ

MON VILLAGE | หมู่บ้านมอญ

หนึ่งในไฮไลต์ของการมาพักผ่อน ชาร์จพลังกันที่ Jungle Rafts ก็คือ การเที่ยวเล่นที่หมู่บ้านมอญ ซึ่งอยู่บนฝั่งด้านหลังของแพจังเกิ้ลราฟท์นี่เอง

แค่เพียงเราเดินผ่านประตูหมู่บ้านเข้ามา ก็เหมือนได้เปิดวาร์ปทะลุมิติไปเจออีกโลกนึง

ชาวบ้านที่นี่ เป็นชาวมอญ​ ที่หลักๆก็ทำงานที่ ​Jungle Rafts นี่แหล่ะ​ เป็นชุมชนเล็กๆ อยู่กันไม่กี่หลังคาเรือน

พอดีวันนี้เราไปถึงเย็นไปหน่อย​ เลยไม่ได้เจอเด็กๆ หรือตอนนักเรียนมาเรียนหนังสือกัน

เดินไปไหว้พระที่ วัดมอญ กันก่อน

พอเดินเข้าไปในวัด นี่ได้ฟีลลิ่งมาทัวร์ไหว้พระที่พม่าเลยนะเนี่ย

มีพระธาตุอินทร์แขวนจำลองด้วย

มีแคมป์ช้างด้วย เห็นว่าตอนเช้าน้องช้างจะลงไปเล่นน้ำอยู่หลังจังเกิ้ลราฟท์ 

โอเค พรุ่งนี้เช้าเจอกัน ^^

ตอนแรกจะหยุดที่แคมป์ช้างแล้วเดินกลับที่พัก​ แต่ไหนๆก็มาแล้ว​ เดินต่อไปยัง Buddha Cave อีกหน่อยดีกว่า มาถึงที่แล้วต้องไปให้ครบทุกจุด

บรรยากาศเหมือนมา trekking เดินป่าหน่อยๆ แต่ทางเดิน เดินไม่ยาก ไม่ต้องบุกป่าฝ่าดงอะไร 

ตั้งแต่เราก้าวเข้ามาในโซนหมู่บ้านมอญนี้ บรรยากาศต่างๆ มันทำให้เราลืมโลกภายนอกไปได้จริงๆ อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเหมือนกัน ต้องลองมาสัมผัสเอง ^^

พอมาสุดทางเราก็จะเจอถ้ำที่มีพระพุทธรูป (ดูรูป Buddha Cave เพิ่มเติมในวิดีโอ) 

ใกล้ๆถ้ำจะมีจุดชมวิว เป็นระเบียงริมผา ตอนนั่งเรือผ่านก็สงสัยว่าตรงนี้คืออะไร 

อ่อ ที่แท้คือจุดชมวิวหน้าถ้ำนี่เอง

มองไปทางขวาเราก็จะได้เห็นที่พักของเราในมุมสูง 

สวยดีเนาะ แพลอยอยู่เหนือลำน้ำแควน้อย มีภูเขาเขียวๆโอบล้อม สมชื่อ Jungle Rafts จริงๆ

แล้วหันมองมาทางซ้ายเห็นอะไรดำผุดดำว่ายอยู่แถวๆเนินทราย นั่นมันฝูงน้องควายมาเล่นน้ำกันนี่หน่า

เคยเห็นควายที่ทะเลน้อยเล่นน้ำ ก็ไม่คิดว่าจะมาเห็นที่นี่นะเนี่ย 

ตรงเนินทรายที่ ควายกำลังเล่นน้ำอยู่นั้น เรียกว่า Buffalo Beach 

ชื่อหาดควายขนาดนี้ น้องๆคงมาเล่นน้ำเป็นประจำทุกวันที่นี่อยู่แล้ว 

ตอนที่เราไปบังเอิญเจอ น่าจะราวๆ 5 โมงเย็น ใครมาถึงที่พักช่วงเวลานี้ก็เดินมาส่องน้องควายอาบน้ำกันได้ หรือบางคนโชคดีนั่งเรือผ่านก็จะเห็นน้องในระยะประชิดเลยล่ะ

น้องๆเล่นน้ำกันเสร็จแล้วเตรียมตัวกลับบ้าน ได้เวลาที่เราเดินกลับที่พักแล้วไปเล่นน้ำบ้างดีกว่า ^^

สำหรับใครที่เป็นสายกิจกรรม แนว Adventure แล้วคิดว่ามาพักที่นี่คงไม่สนุก ไม่มีอะไรทำ วันๆนั่งๆนอนๆ อ่านหนังสือเงียบๆ

คุณคิดผิดแล้วววว!!!! 

เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้เราสนุกได้ทั้งวัน กิจกรรมที่ทำให้แม่น้ำแควน้อย ไม่ได้ไหลผ่านไปเฉยๆ แต่จะพาคุณลอยคอ ตุ๊บป่องๆ ไหลตามน้ำไปด้วย ^^

ก่อนอื่นต้องสวมชูชีพก่อน กระแสน้ำไหลค่อนข้างแรง  เพื่อความปลอดภัยไม่ว่าคุณจะว่ายน้ำแข็งแค่ไหน ก็ไม่ควรประมาท สวมชูชีพทุกครั้งที่เล่นน้ำ 

ใส่แล้วก็โดดลงน้ำได้เล้ยยยยย ตู้มมมมมม. . . . . 

สดชื่นนนนน

พยายามอย่าโดดไปไกลจากแพมาก  เพราะน้ำไหลเร็ว  เดี๋ยวน้ำจะพัดเราไปไกลเกินไป ไปติดอยู่หาดควาย ลำบากคนมาตามอีก 555
โดดแล้วก็ลอยๆไปขึ้นแพเพื่อนบ้านแล้วก็กลับมาโดดใหม่ วนไป 10 รอบ ปฏิบัติ !!!!

ใครชอบพายเรือคายัค ที่นี่ก็มีไว้ให้เล่นเหมือนกัน

หรือไม่อยากพายเอง ก็เล่นเป็นแพเปียก แต่ต้องมาหลายๆคนหน่อยถึงจะสนุก ค่อยๆลอยไป อยากโดดน้ำตรงไหนก็โดด

แพนี้ขึ้นได้ 5 คน มาสองคนก็จะเหงาๆหน่อย^^'

เหมือนขึ้นเสลี่ยง ลอยตามน้ำมา หาชุดสวยมาถ่ายรูปด้วยก็เก๋ดี

ใช้พลังงานกับกิจกรรมทางน้ำไปจนหมดแรงแล้ว  ได้เวลาอาหารเย็นแล้วล่ะ

อาหารเย็นจะเสิร์ฟราวๆ 6 โมง พร้อมเมื่อไหร่ก็เดินไปที่โซนร้านอาหารได้เลย 

ทาง Jungle Rafts จะจัดเตรียมอาหารมาเสิร์ฟให้ ซึ่งอาหารมี 5 อย่าง พร้อมข้าวสวย อาหารไม่พอ ทานไม่อิ่ม ขอเพิ่มได้ตลอด 

(*ราคาอาหารเย็นก็รวมไปในค่าที่พักแล้วด้วย ^^)

อาหารจะรสชาติกลางๆ ไม่จัดมาก 

ช่วงเย็นฟ้าเริ่มมืด ที่นี่ก็จะจุดตะเกียงเจ้าพายุไว้ทุกจุดของแพเลย  ถึงจะไม่สว่างเท่าไฟฟ้า

แต่มีความโรแมนติคกว่า แสงนวลสวยกว่าไฟฟ้าเยอะ ^^

บรรยากาศดีๆอย่างนี้ สั่งเครื่องดื่มมานั่งชิลกันได้ มีทั้ง cocktail / เบียร์ / ไวน์  ที่ Jungle Bar

จะลองเป็น Recommended Cocktail ตัวนี้ ชื่อดีมาก River of no return สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ 

แต่ดูส่วนผสมแล้ว เกรงว่าจะเดินกลับห้องไม่ไหว ตกน้ำไหลไปไม่ย้อนกลับแน่นอน ฮือๆ (>_<) 555+ 

มีทั้ง Brandy + Gin + Whisky + Vodga + Rum  รวมแอลกอฮอล์ทุกขนานไว้ในแก้วเดียว แค่เห็นส่วนผสมก็เดินเซแล้ว555+++

เราไม่ดื่มแอลกอฮอล์ขอเป็น Mocktail ชื่อว่า Sawasdee แก้วนี้ดีกว่า 

บรรยากาศสวยงามมากจริงๆ แสงของเจ้าตะเกียงเจ้าพายุนี่ก็มีเสน่ห์ดีนะ

บรรยากาศช่วงหัวค่ำ สวยงาม สีฟ้าตัดกับแสงตะเกียงสวยดี

คืนนี้เป็นข้างขึ้น อาจจะเห็นดาวไม่ชัด เพราะ พระจันทร์สว่างมาก สว่างเหมือนเปิดไฟเลย

คืนนี้เราจะเข้าสู่ SAVE MODE และชาร์จพลังข้ามคืนจากไฟส้มๆของตะเกียงเจ้าพายุ

. . . Good Night . . . 

เมื่อคืนแอบแยกไปนอนบนเปลญวนหลังบ้าน  หลับตื่นมาพร้อมเสียงน้ำ เช้ามืดมีเสียงนกจิ๊บๆมากระซิบปลุกให้ตื่นมาดูหมอกยามเช้า

อรุณสวัสดิ์จ้าาาา 

ตื่นมาชาร์จพลังหมอกกันต่อ ช่วงเช้าประมาณตีห้าเกือบ 6 โมงฟ้าก็สว่างแล้ว

เช้านี้เรามานั่งทานbreakfast ที่มุมเดิม 

Advertisement

กำลังจะอิ่ม สตาฟก็เดินมาแจ้งว่า ช้างลงมาอาบน้ำแล้วนะคะ 

เดี๋ยวไปดูน้องช้างอาบน้ำกันดีกว่า

จริงๆเรียกน้องไม่ได้ ต้องเรียกพี่ช้าง เพราะแก่กว่าเราเป็นสิบปี 

แต่พี่ช้างน่ารักมาก คุ้นชินกับคน เห็นใครเดินผ่านก็ทักทาย 

ดูสิ เจอกันแป๊บเดียวสนิทแล้ว ถึงขนาดมาหนุนตักเลย 

เท่าที่เช็คตัวเองดู รู้สึกพลังกายพลังใจที่มาชาร์จไว้ที่นี่แบตเตอรีเต็มแล้ว 

ไม่น่าเชื่อว่ามาพักที่แท่นนชาร์จไร้ไฟแค่ 1 วัน แต่กลับเติมไฟให้กับเราจนเต็มได้ขนาดนี้ 

My Battery is fully charged!!

ตอนนี้ได้เวลาเราเก็บของออกเดินทางกันต่อ แล้วเราจะมาชาร์จแบตใหม่อีกนะ

Advertisement

---

ใครสนใจมาพักชาร์ตแบตร่างกายที่ RiverKwai Jungle Rafts

* * * ราคาเริ่มต้นที่ 2,300 บาท พร้อมอาหาร เช้าและเย็นแบบไม่อั้น * * *

ได้มาพักผ่อน โดดน้ำ เดินเล่นหมู่บ้านมอญ นอนดูดาว ฟังเสียงธรรมชาติ ชาร์จแบตให้เต็มๆกันไปเลย

แมวน้ำ Seally.Go.Round ยังมีโค้ดส่วนลดที่พัก River Kwai Jungle Rafts 

ถึง 10 % ให้กับทุกคนที่อ่านรีวิวนี้ด้วย เมื่อจองตรงกับทางโรงแรม ใส่โค้ดนี้ไปเลย >>>

[ Promotion Code : SGR10 ]

วิธีจอง

1. เข้าลิงก์จองตรงของโรงแรม >>> RiverKwai Jungle Rafts 

2. กรอก Promocode " SGR10 " ที่ช่อง Promotion Code

3. ระบุวันเข้าพักพร้อมชำระเงิน

• • • ระยะเวลาการจอง : 21 - 31 กรกฎาคม 2563 • • •

• • • ระยะเวลาเข้าพัก : 21 กรกฎาคม - 31 ตุลาคม 2563 • • •

****ราคาพิเศษขนาดนี้ รีบจองไว้ก่อนเลย เลือกพักได้ถึงสิ้นเดือนต.ค.นู่นแหน่ะ ^^***

---

หรือ จะจองห้องพักกับโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ก็ได้ รายละเอียดตามนี้เลยจ้า

ขั้นตอนการจองโรงแรม สำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" 

1. ลงทะเบียนกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันและได้รับ SMS ยืนยัน
2. แจ้งวันที่ต้องการเข้าพักและข้อมูลผู้จองทางอีเมล
3. รอการแจ้งเตือนในแอพ เป๋าตัง
4. ตรวจสอบความถูกต้อง และชำระเงินได้เลย

   ---

---

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามโดยตรงกับทาง RiverKwai Jungle Rafts  ตามช่องทางต่างๆ ดังนี้เลยค่า

• River Kwai Jungle Raft •

• เว็บไซต์ : https://www.riverkwaijunglerafts.com/th/

• Facebook : https://www.facebook.com/riverkwaijunglerafts

• เบอร์ติดต่อ : 081-734 0667

• GPS : 14.281035, 99.000796
• Direct Booking link : https://bit.ly/34WJcQ4

---

แล้วพบกันใหม่ รีวิวหน้าค่าาาาาา . . .

ติดตามการเดินทางของแมวน้ำ Seally.Go.Round เที่ยวแบบเจาะลึก ข้อมูลแน่นๆ

• Facebook: https://www.facebook.com/seallygoround/
• IG: @Seally.go.round (lifestyle) / @air.la.cuisine (Cooking diary)
• อ่านรีวิวทริปอื่นๆ ได้ที่ https://th.readme.me/id/seallygoround

---